ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease) เป็นสภาวะที่ไขมันเข้าไปแทรกที่เซลล์ของตับ

[Ailie662]

ซึ่งถ้าหากสะสมมากยิ่งกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ จะนับว่าเป็นภาวการณ์ไขมันพอกตับ ทำให้ตับมีการอักเสบ หรือเซลล์ตับตาย และก็เกิดพังผืดด้านในตับ กระทั่งกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด ซึ่งหากอาการของโรคดำเนินไปจนกระทั่งสภาวะตับแข็ง จะไม่สามารถที่จะรักษาได้ด้วยยาหรือวิธีทางการแพทย์ใดๆทำได้เพียงแค่ควบคุมอาการรวมทั้งลดปริมาณไขมันในตับลงโดยการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ลักษณะของไขมันพอกตับ จะไม่แสดงให้เห็นตั้งแต่เริ่มแรก แต่ว่าจะเริ่มมีลักษณะที่ได้ผลสำเร็จพวงจากการที่ไขมันสะสมอยู่ในตับมากไม่น้อยเลยทีเดียว โดยอาการที่พบได้ทั่วไป คือ อ่อนล้า อ่อนแรง ไม่มีแรง รู้สึกไม่สบายท้องน้ำหนักลดไม่ดีเหมือนปกติ ความอยากของกินลดลง คลื่นไส้ ความสามารถสำหรับในการตกลงใจและก็สมาธิลดลง นอกเหนือจากนั้น โรคไขมันพอกตับอาจจะส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้ อย่างเช่น ตับโต เกิดอาการปวดที่รอบๆท้องด้านบนขวา หรือกลางท้อง แล้วก็บางทีอาจเจอรอยปื้นคล้ำที่ผิวหนังรอบๆ คอ หรือใต้รักแร้ เป็นต้น

สาเหตุที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดสภาวะไขมันพอกตับ มีสาเหตุจากการที่ร่างกายสะสมไขมันมากจนเกินความจำเป็น หรือกำเนิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบเผาผลาญไขมัน ดังนี้ไขมันที่ไปแทรกตามเซลล์ตับบางทีอาจมิได้มีต้นเหตุจากการกินอาหารที่มีไขมันสูงโดยตรง แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะต้นเหตุอื่นๆอาทิเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ เบาหวาน โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง ความผิดปกติของลำไส้ในการซับสารอาหาร โรคไวรัสตับอักเสบบีและซี หรือการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV) ฯลฯ

ไขมันพอกตับเป็นภาวการณ์สุขภาพซึ่งสามารถเลี่ยงได้ ถ้าเกิดมีการดูแลสุขภาพที่ดีพอ และเลือกทานอาหารที่มีสาระ ดังเช่นว่า ผัก ผลไม้ ธัญพืชประเภทต่างๆเลี่ยงของกินไขมันสูง เปลี่ยนแปลงมารับประทานของกินที่มีไขมันดี ได้แก่ ถั่วเปลือกแข็ง อะโวคาโด ปลาสมุทร เป็นต้น แต่ การดูแลและรักษาสภาวะไขมันพอกตับควรจะมุ่งเน้นไปที่การหันมาดูแลสุขภาพรวมทั้งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ย้ำอาหารที่มีโปรตีนสูง หลบหลีกของกินที่มีไขมันสูงรวมทั้งของกินที่มีรสเค็มจัด นอกเหนือจากนี้ควรจะกินผักและกินผลไม้ให้มากยิ่งขึ้น

- บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้อาการโดยรวมต่างๆของภาวะไขมันพอกตับดียิ่งขึ้น และช่วยทำให้ความไวต่ออินซูลินของร่างกายดีขึ้นด้วย

- การควบคุมน้ำหนัก เลิกดูดบุหรี่ และควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่สมควร