(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/___1ebadfc534289d74d.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
พิมพ์นามบัตร Digital Offset ราคาคละแบบได้ เริ่มต้นขั้นต่ำ 100 ใบ 100 บาท
พิมพ์เพลินพริ้นท์ มีบริการ Template พิมพ์นามบัตรสวยๆ ไว้ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
และพิมพ์นามบัตรพรีเมียม จัดส่งทั่วประเทศ ทำนามบัตรด่วน พิมพ์นามบัตรสี
การพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)นั้นตอนแรกถูกใช้เพื่อสำหรับในการแนะนำตัวของตัวเองให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกฝ่ายสามารถจดจำตนเองได้ดีขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายรู้โปรไฟล์ของเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และก็เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ในการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากในอดีตกาลในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ
เนื่องจากว่าถ้าอยากจดเบอร์โทรศัพท์จำต้องใช้การจดลงสมุดแล้วต้องซักถามรายละเอียดจากบุคคลนั้น ซึ่งบางครั้งก็อาจจะไม่
สะดวกรวมทั้งทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีการสัมมนาหรือพบปะสนทนาผู้อื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรก็เลยนับเป็น
สิ่งที่จำเป็นอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะมีเครื่องใช้ไม้สอยที่ช่วยสำหรับในการชี้แนะตัวเองแล้วก็โปรไฟล์ได้มากมายหลากหลายแนวทาง แต่ว่าแม้ว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)ไม่ใช่แค่เพียงเป็น "Name Card" แม้กระนั้นกลายเป็น "Business Card" ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับการติดต่อธุรกิจกับผู้อื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่มีความต้องการมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่านิยมของญี่ปุ่นนั้นจัดว่าให้พกนามบัตรติดตัวตลอดระยะเวลาและก็ให้ความใส่ใจมาก
กว่ากระเป๋าใส่เงินอีกด้วย เพราะว่าถ้าหากมีการพบเห็นบุคคลภายนอกจนกระทั่งมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรจัดว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ด้วยเหตุนี้การพิมพ์นามบัตรจึงมีความสำคัญอย่างที่สุดไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงธุรกิจแต่รวมถึงคนทั่วๆไปด้วย
ลักษณะของนามบัตรนั้นจะต่างกันออกไปตามจุดมุ่งหมายการใช้แรงงาน เช่น ใช้เสนอแนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ เป็นต้น โดยเนื้อหาข้อมูลในการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างกันออกไป โดยปกติข้อมูลพื้นฐานที่จะต้องมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนหมายถึง1.ชื่อ – ชื่อสกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือหนทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้อย่างใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายแบบก็ได้ตามแต่สะดวก ซึ่งในขณะนี้เว้นเสียแต่ระบุเบอร์โทรศัพท์ มือถือ ที่อยู่ อาจจะเสริมเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเติมอีกเป็นต้น แต่ว่าแม้เป็นการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)เพื่อธุรกิจก็ควรมีเพิ่มเติมในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และก็อาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมทั้งการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์อาจจะควรจะเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
วางใจเป็นต้น
งานพิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งแรงพอประมาณ ไม่สมควรบางหรืออ่อนตัวจนเกินความจำเป็น ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีไม่เหมือนกันออกไปบ้างน้อยแต่ไม่สมควรแตกต่างจากขนาดมาตรฐานมากเท่าไรนัก โน่นคือ 3.5 x 2.125 นิ้ว เพราะว่าขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่กับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ควรมีความหนา
260 แกรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยปัจจุบันนิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะกำหนดรายละเอียดเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งและภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะสมสำหรับเพื่อการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนประเทศอื่นรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้มีความสวยงามนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะว่าช่วยเพิ่มความน่าไว้ใจสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่เคยทราบท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าได้เห็นนามบัตรที่มองสง่าผ่าเผยก็จะมีผลให้เชื่อมั่นว่าบริษัทท่านจำต้องมองน่าเชื่อถือตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มเติมอีกในกับนามบัตรจึงได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม เช่น การเคลือบ UV เคลือบเงา เคลือบด้าน เคลือบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทองคำ รวมทั้งฯลฯขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง
Tags : พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)